- บำรุงสุขภาพ
- บำรุงสายตา
- ดีทอกซ์
- บำรุงกระดูกและข้อ
- สุขภาพช่องปาก
- กาแฟเพื่อสุขภาพ
- เครื่องดื่มรังนก
- น้ำสมุนไพร
- เครื่องดื่มวิตามิน
- ข้าว
- เครื่องวัดความดัน
- อุปกรณ์ดูแลผู้สูงอายุ
- เครื่องนวดไฟฟ้า
- กระชายขาว
- ฟ้าทะลายโจร
- Activis
- Real Elixir
- S.O.M.
- ครีมบำรุงผิวหน้า
- เซรั่มบำรุงผิว
- ครีมกันแดด
- เซรั่มบำรุงผม
- แชมพู
- BSC
- Deraey
- MAGIQUE
- Revive
- เสื้อ และกางเกง
- ชุดกระชับสัดส่วน
- ชุดชั้นใน และกางเกงชั้นใน
- ชุดกีฬา
- เสื้อ และกางเกง
- ชุดชั้นใน และกางเกงชั้นในชาย
- กล่องเก็บเครื่องประดับ
- นาฬิกา
- แว่นกันแดด
- กระเป๋า
- เครื่องฟอกอากาศ
- เครื่องปรับอากาศ
- พัดลม
- เตารีด
- เครื่องซักผ้า
- กาต้มน้ำไฟฟ้า
- โคมไฟ และอุปกรณ์ให้แสงสว่าง
- เครื่องกรองน้ำ
- โทรศัพท์มือถือ และแท็บเล็ต
- นาฬิกาสมาร์ทวอทช์
- อุปกรณ์เสริม
- ไดร์ และเครื่องหนีบผม
- เครื่องโกนหนวด
- แปรงสีฟันไฟฟ้า
- Aston
- Philips
- หม้อ
- หม้อทอดไร้น้ำมัน
- หม้อหุงข้าว
- กระทะ
- เตาไฟฟ้า
- เครื่องปั่น/เครื่องคั้นน้ำ
- ชุดจานชาม
- ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาด
- หุ่นยนต์ดูดฝุ่น
- เครื่องดูดฝุ่น
- ไม้ถูพื้น
- เครื่องนอน/หมอน
- เตียง และท็อปเปอร์
- โซฟา
- เก้าอี้ และเบาะรองนั่ง
- โต๊ะ
- อุปกรณ์อื่นๆ
- BCC
- Philips
- ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาด
- อาหารสุนัข
- ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาด
- อาหารแมว

ปรับพฤติกรรม ทำตัว New Normal ดูแลตัวเองให้ห่างไกลโควิด-19 หลังเปิดประเทศ
แม้ว่าช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา สถานการณ์การระบาดไวรัสโคโรนา 2019 หรือ โควิด-19 (COVID-19) ในประเทศไทยดูเหมือนจะดีขึ้นบ้างแล้ว และรัฐบาลได้เดินหน้าฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ให้กับทุกๆ คนในประเทศไปบ้างแล้วจึงทำให้ หน่วยงานภาครัฐตัดสินใจเปิดประเทศเพื่อต้อนรับนักท่องเที่ยว และแม้ว่าหลายๆ คนจะได้รับวัคซีนโควิดแล้ว แต่เราก็ไม่อาจที่จะไว้วางใจหรือเริ่มต้นใช้ชีวิตอย่างปกติที่เคยเป็นมาได้ และหากคุณเป็นหนึ่งคนที่ไม่อยากให้ตัวเองเข้าไปอยู่ในกลุ่มเสี่ยงของผู้ติดเชื้อ ทีมงาน RS Mall มีข้อแนะนำดีๆ จาก สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (ส.ส.ส.) เกี่ยวกับอาการของโควิด-19 และการดูแลตัวเองให้ห่างไกลโรคมาฝาก
ย้อนความจำ โรคโควิด-19 (COVID-19) คืออะไร?
ไวรัสโคโรนา 2019 หรือ ที่คุ้นหูกันดีว่า โควิด-19 (COVID-19) เป็นเชื้อไวรัสที่เป็นต้นเหตุให้เกิดโรคทางเดินหายใจ โดยหลังจากที่มีการติดเชื้อผู้ป่วยมักจะไม่แสดงอาการ หรือ หากแสดงอาการก็มักจะพบอยู่ 2 แบบคือ
- แสดงอาการไม่รุนแรง ในผู้ป่วยหรือผู้ติดเชื้อโควิด-19 บางราย มักมีอาการเบื้องต้นที่คล้ายกับอาการป่วยจากโรคไข้หวัดที่เกิดจากไวรัสทั่วไป หรือ
- แสดงอาการป่วยรุนแรง เช่น โรคระบบทางเดินหายใจตะวันออกกลาง (MERS-CoV) และโรคระบบทางเดินหายใจเฉียบพลันรุนแรง (SARS-CoV) หรือมีอาการปอดอักเสบจนถึงขั้นเสียชีวิต เป็นต้น
ไวรัสโคโรนา 2019 เริ่มระบาดครั้งแรกในเมืองอู่ฮั่น มณฑลหูเป่ย์ สาธารณรัฐประชาชนจีน ในช่วงปลายปี 2019
ดูแลตัวเองอย่างไร ให้ห่างไกลโควิด-19
1. เลิกใช้มือขยี้ตา, แคะจมูก
เพราะเชื้อโควิด-19 สามารถเข้าสู่ร่างกายได้ผ่านการไอ, จาม รวมถึงการสัมผัสสารคัดหลั่ง เช่น น้ำมูก, น้ำลาย จึงเป็นเหตุให้ในช่วงที่ผ่านมาเรามักจะได้ยินคำเตือนจากบุคลากรทางการแพทย์อยู่บ่อยๆ ว่า ให้ล้างมือด้วยน้ำสบู่หรือ เจลแอลกอฮอล์ ทุกครั้งที่มีการสัมผัสจุดเสี่ยงหรือพื้นที่สาธารณะร่วมกับบุคคลอื่น และให้ระวังการใช้มือสัมผัสใบหน้า เพราะอาจจะทำให้เรารับเชื้อโควิด-19 เข้าร่างกายแบบไม่รู้ตัวได้ ทั้งนี้ก็เพราะโควิด-19 สามารถเข้าสู่ร่างกายเรา 3 ช่องทาง คือ
- รูน้ำตา ดวงตาของคนเรามีท่อระบายน้ำตาอยู่ และเป็นจุดที่เชื้อโรคสามารถผ่านเข้าร่างกายได้ และหากคุณใช้มือสัมผัสจุดสาธารณะร่วมกับคนอื่นๆ แล้วมาขยี้ตา ความเสี่ยงที่คุณจะได้รับเชื้อโควิด-19 เข้าร่างกายก็มีเยอะตามไปด้วย
- รูจมูก โพรงจมูกเป็นจุดที่เชื่อมต่อกับระบบทางเดินหายใจของร่างกายโดยตรง นั่นหมายความว่าหากคุณแคะจมูก หรือ แคะขี้มูกโดยที่ไม่ล้างมือให้สะอาด (แม้ว่าล้างมือแล้วหากหลีกเลี่ยงได้ก็ควรหลีกเลี่ยง) อาจจะทำให้ร่างกายของคุณได้รับเชื้อโควิด-19 จากพฤติกรรมนี้ได้เช่นกัน
- ปาก เป็นจุดที่อันตรายเช่นกัน เนื่องจากปากเป็นช่องร่วมที่เชื้อโรคสามารถเดินทางเข้าสู่ระบบทางเดินหายใจได้ นั่นหมายความว่า หากคุณมีพฤติกรรมจับปากบ่อยๆ หรือ ใช้กินอาหารโดยใช้ช้อนร่วมกับคนอื่นๆ เชื้อโควิด-19 ก็สามารถเข้าสู่ร่างกายของคุณได้เช่นกัน
2. ออกไปข้างนอก กลับมาต้องเปลี่ยนเสื้อผ้าทันที
ในกรณีที่คุณไม่สามารถหลีกเลี่ยงการออกไปทำงานหรือทำธุระนอกบ้านได้ เมื่อกลับถึงบ้านคุณควรอาบน้ำ สระผม และเปลี่ยนเสื้อผ้าโดยทันที ในกรณีที่สวมเสื้อคลุม ให้เลือกแขวนเสื้อคลุมไว้ในจุดที่มีอากาศถ่ายเท ไม่ควรแขวนรวมกับเสื้อผ้าสะอาด เพื่อป้องกันการแพร่กระจายของเชื้อโรค
การทำความสะอาดเสื้อผ้าในช่วง โควิด-19
ระบบบริการสุขภาพแห่งชาติของอังกฤษ (National Health Service (NHS)) ได้ให้คำแนะนำเกี่ยวกับการทำความสะอาดเสื้อผ้าที่ใช้แล้วในช่วงการระบาดของโควิด-19 ไว้ดังนี้
- ห้ามสะบัดเสื้อผ้าที่ใส่แล้ว เพราะอาจทำให้เชื้อไวรัสที่ติดอยู่บนเสื้อแพร่กระจายในอากาศได้ และควรล้างมือให้สะอาดหลังจากเอาผ้าเข้าเครื่องแล้วทุกครั้ง
- ควรซักทำความสะอาดเสื้อผ้าที่ใส่ไปข้างนอกทันที่กลับถึงบ้าน เพราะหากคุณทิ้งเสื้อผ้าที่ใส่ออกไปข้างนอกไว้ในตะกร้าผ้า อาจจะทำให้เชื้อไวรัสมีชีวิตได้นานหลายวัน และอาจจะทำให้เชื้อโรคโตได้เร็วขึ้น
- ควรซักผ้าด้วยน้ำที่มีอุณหภูมิสูงกว่าปกติ เพื่อป้องกันการแพร่กระจายของเชื้อโรค โดยเสื้อผ้าทั่วไป ควรซักด้วยน้ำที่มีอุณหภูมิ 60 องศาเซลเซียส ในกรณีที่ซักผ้าโดยใช้น้ำยาฟอกขาว ควรซักผ้าด้วยควรซักด้วยน้ำที่มีอุณหภูมิ 40 องศาเซลเซียส
- แยกซักผ้าเช็ดตัวออกจากเสื้อผ้าอื่นๆ เพราะความชื้นในผ้าเช็ดตัวหรือผ้าขนหนูมีส่วนทำให้เชื้อโรคสามารถเติบโตได้เร็วขึ้น หากซักปนกับเสื้อผ้าอื่นๆ อาจจะทำเชื้อโรคแพร่กระจายได้ และควรซักผ้าขนหนูด้วยน้ำที่มีอุณหภูมิ 60 องศาเซลเซียสเช่นเดียวกับการซักผ้าอื่นๆ
เพิ่มเติมที่ (www.stylist.co.uk)
3. หลีกเลี่ยงการสัมผัส หรือ ใช้สิ่งของสาธารณะร่วมกับผู้อื่น
เพราะเราไม่มีทางรู้ว่าสิ่งของหรือจุดสัมผัสสาธารณะนั้นๆ มีใครจับหรือสัมผัสมากี่คนแล้วบ้าง และไม่สามารถทราบได้ว่า คนที่จับก่อนหน้าเรานั้นมีเชื้อโควิด-19 ในร่างกายแต่ไม่แสดงอาการหรือไม่ ดังนั้น คุณจึงควรหลีกเลี่ยงการจับหรือสัมผัสสิ่งของสาธารณะร่วมกับผู้อื่นให้ได้มากที่สุด หรือ ในกรณีที่ไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ ควรล้างมือด้วยสบู่ หรือ เจลแอลกอฮอล์ ทุกครั้งก่อนจับหรือสัมผัสร่างกาย เพื่อป้องกันการนำเชื้อเข้าสู่ร่างกาย
4. สวมหน้ากากอนามัย หรือ หน้ากากผ้าตลอดเวลาที่อยู่ร่วมกับผู้อื่น
ควรสวมหน้ากากอนามัย หรือ หน้ากากผ้าทุกครั้งที่ออกจากบ้าน หรือ เมื่อมีความจำเป็นต้องใช้บริการขนส่งมวลชน หรือ รถสาธารณะ และเมื่อมีความจำเป็นต้องเข้าไปในสถานที่แออัดไม่ว่าจะเป็น ห้าง ตลาด โรงหนัง ฯลฯ เพื่อป้องกันไม่ให้ร่างกายเสี่ยงต่อการได้รับเชื้อโควิด-19
** การใส่หน้ากากผ้าสามารถป้องกันเชื้อไวรัสได้สำหรับบุคคลที่ไม่มีอาการป่วยเท่านั้น และควรซักหน้ากากผ้าทุกวัน เพื่อสุขภาพอนามัยที่ดี
5. ต้องไม่ลืมเว้นระยะห่างทางสังคม (Social Distancing)
แม้จะมีการเปิดประเทศต้อนรับนักท่องเที่ยวแล้ว แต่ด้วยจำนวนผู้ติดเชื้อใหม่ยังคงอยู่ในสถานการณ์ที่ต้องจับตามอง ทำให้การเว้นระยะห่างทางสังคม (Social Distancing) ยังคงเป็นเรื่องที่เรายังต้องให้ความสำคัญกันอย่างต่อเนื่อง ดังนั้น ในช่วงนี้เราอาจจะต้องงดแสดงความรักด้วยการกอด หอม จับมือ กับครอบครัวหรือคนรัก รวมถึงงดเข้าร่วมกิจกรรมที่จะมีคนมารวมตัวกันเยอะๆ ไม่ว่าจะเป็นคอนเสิร์ต เทศกาลดนตรี หรือ งานเคาท์ดาวน์ปีใหม่ไปก่อน เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด 19
แต่ในกรณีที่คุณอยู่ในสถานการณ์ที่ไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ หรือ มีความจำเป็นที่ยังต้องเดินทางไปทำงานที่ออฟฟิศ เราขอแนะนำให้คุณนั่งห่างจากเพื่อนร่วมงานในระยะ 1 เมตร และไม่ควรจัดโต๊ะแบบหันหน้าเข้าหากัน รวมถึงควรทำความสะอาดของใช้ส่วนตัวไม่ว่าจะเป็น คอมพิวเตอร์, คีย์บอร์ด, เมาส์ และของที่ใช้ร่วมกับบุคคลอื่นๆ อย่างสม่ำเสมอด้วย
6. ไม่ใช้ของร่วมกัน และเลือกรับประทานอาหารที่ปรุงสุกอยู่เสมอ
คุณควรหลีกเลี่ยงการใช้ของร่วมกับผู้อื่น ไม่ว่าจะเป็น จาน, ช้อน, แก้วน้ำ อย่างเคร่งครัด และควรหลีกเลี่ยงการทานอาหารที่ปรุงทิ้งไว้ หรือ อาหารดิบ ควรเลือกทานอาหารที่ปรุงสุกใหม่ๆ อยู่เสมอ ท่องไว้ในใจทุกครั้งว่า "กินร้อน ช้อนใครช้อนมัน"
7. สังเกตอาการป่วยของตัวเอง และทุกคนในบ้านอย่างสม่ำเสมอ
ควรสังเกตอาการป่วยของตัวเองและคนในบ้านอยู่เสมอ และหากพบว่ามีอาการผิดปกติหรือมีอาการเข้าข่ายติดเชื้อโควิด-19 ไม่ว่าจะเป็น
- มีไข้สูงเกิน 37.5 องศาเซลเซียส
- มีอาการทางเดินหายใจ เช่น ไอ จาม มีน้ำมูก (อาการใดอาการหนึ่ง)
- มีประวัติเคยเดินทางไปในพื้นที่เสี่ยง หรือ พื้นที่ที่มีคนติดเชื้อ
หมายเหตุ
- หากมีอาการที่กล่าวมาข้างต้น แนะนำให้โทร 1422 สายด่วนกรมควบคุมโรคทันที
- แต่หากอาการไอ จาม ที่เกิดจากอาการภูมิแพ้หรือไข้หวัดปกติ แนะนำให้จามใส่กระดาษทิชชู และทิ้งกระดาษลงในถังขยะที่มีฝาปิดมิดชิด และล้างมือด้วยสบู่ทุกครั้ง
- สามารถตรวจเช็กอาการโควิด-19 แต่ละสายพันธุ์ได้ที่ : เช็กลิสต์ อาการ 5 สายพันธุ์โควิด
แม้ว่าสถานการณ์การระบาดของโรคโควิด-19 ในประเทศไทยอาจจะดูไม่น่ากลัวเท่าเมื่อ 2 เดือนก่อนแล้ว แต่เราก็ไม่สามารถวางใจได้ 100% และจนกว่าจะมีวัคซีนที่สามารถใช้ป้องกันโรคโควิด-19 ได้ เราอาจจะต้องใช้ชีวิตกันด้วยความระมัดระวังปฏิบัติตนตามมาตรการเว้นระยะห่างทางสังคมอย่างเคร่งครัด เลือกทานอาหารที่มีประโยชน์ หรือ ทานอาหารเสริมเพื่อให้ร่างกายมีภูมิต้านทาน และหมั่นออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ เพื่อสุขภาพที่ดีของตัวเราเองและคนรอบข้าง จำไว้ว่า “ไม่ประมาท การ์ดอย่าตก”