- บำรุงสุขภาพ
- บำรุงสายตา
- ดีทอกซ์
- บำรุงกระดูกและข้อ
- สุขภาพช่องปาก
- กาแฟเพื่อสุขภาพ
- เครื่องดื่มรังนก
- น้ำสมุนไพร
- เครื่องดื่มวิตามิน
- ข้าว
- เครื่องวัดความดัน
- อุปกรณ์ดูแลผู้สูงอายุ
- เครื่องนวดไฟฟ้า
- กระชายขาว
- ฟ้าทะลายโจร
- Activis
- Real Elixir
- S.O.M.
- ครีมบำรุงผิวหน้า
- เซรั่มบำรุงผิว
- ครีมกันแดด
- เซรั่มบำรุงผม
- แชมพู
- BSC
- Deraey
- MAGIQUE
- Revive
- เสื้อ และกางเกง
- ชุดกระชับสัดส่วน
- ชุดชั้นใน และกางเกงชั้นใน
- ชุดกีฬา
- เสื้อ และกางเกง
- ชุดชั้นใน และกางเกงชั้นในชาย
- กล่องเก็บเครื่องประดับ
- นาฬิกา
- แว่นกันแดด
- กระเป๋า
- เครื่องฟอกอากาศ
- เครื่องปรับอากาศ
- พัดลม
- เตารีด
- เครื่องซักผ้า
- กาต้มน้ำไฟฟ้า
- โคมไฟ และอุปกรณ์ให้แสงสว่าง
- เครื่องกรองน้ำ
- โทรศัพท์มือถือ และแท็บเล็ต
- นาฬิกาสมาร์ทวอทช์
- อุปกรณ์เสริม
- ไดร์ และเครื่องหนีบผม
- เครื่องโกนหนวด
- แปรงสีฟันไฟฟ้า
- Aston
- Philips
- หม้อ
- หม้อทอดไร้น้ำมัน
- หม้อหุงข้าว
- กระทะ
- เตาไฟฟ้า
- เครื่องปั่น/เครื่องคั้นน้ำ
- ชุดจานชาม
- ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาด
- หุ่นยนต์ดูดฝุ่น
- เครื่องดูดฝุ่น
- ไม้ถูพื้น
- เครื่องนอน/หมอน
- เตียง และท็อปเปอร์
- โซฟา
- เก้าอี้ และเบาะรองนั่ง
- โต๊ะ
- อุปกรณ์อื่นๆ
- BCC
- Philips
- ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาด
- อาหารสุนัข
- ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาด
- อาหารแมว

ประโยชน์ของ อะโวคาโด (Avocado) ดีต่อสุขภาพความงามอย่างน่าทึ่ง!!
หลายคนรู้อยู่แล้วว่า อะโวคาโด (Avocado) เป็นผลไม้ที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย และสามารถนำมาทานได้หลากหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็น ทานแบบผลสด หรือ นำมาทำสลัด ฯลฯ และหากคุณยังนึกไม่ออกว่า ผลไม้สุดฮิตอย่างอะโวคาโดมีประโยชน์มากแค่ไหน เลื่อนลงมาดูเลย
1. อะโวคาโด (Avocado) ช่วยลดน้ำหนักและไขมันชนิดเลว
เรารู้กันดีอยู่แล้วว่า อะโวคาโดเป็นผลไม้ที่มีส่วนช่วยในการลดหรือควบคุมน้ำหนักได้เป็นอย่างดี แต่คุณรู้หรือไม่ว่า นอกจากอะโวคาโดจะช่วยคุมน้ำหนักได้แล้วนั้น ผลไม้ชนิดนี้ยังมีส่วนช่วยควบคุมและลดระดับคอเลสเตอรอลในเลือด ซึ่งสามารถช่วยป้องกันความเสี่ยงโรคเส้นเลือดหัวใจอุดตัน หรือ โรคหลอดเลือดสมองตีบได้
และแม้ว่า อะโวคาโดจะเป็นผลไม้ที่มีไขมันมากถึง 17.3 กรัม (ต่อน้ำหนัก 100 กรัม) ก็ไม่ส่งผลให้คุณมีน้ำหนักหรือมีมวลไขมันเพิ่มขึ้นจากการรับประทานอะโวคาโดแต่อย่างใด ซึ่งงานวิจัยจาก North-West University ในประเทศแอฟริกาใต้ พบว่าคนที่กินอะโวคาโดเป็นประจำทุกวัน วันละ 200 กรัม จะสามารถลดน้ำหนักและไขมันเลวได้สูงมาก นั่นก็เพราะไขมันที่อยู่ในอะโวคาโด เป็นไขมันชนิดดีที่ร่างกายต้องการนั่นเอง
2. อะโวคาโด (Avocado) มีโฟเลตสูง
หลายคนอาจจะยังไม่รู้ว่า อะโวคาโดเป็นผลไม้ที่มี โฟเลต (Folate) สูง จึงเหมาะกับหญิงตั้งครรภ์มาก เนื่องจากโฟเลตมีความจำเป็นต่อการเจริญเติบโตและการพัฒนาสมองของลูกน้อยในครรภ์ คุณแม่จึงควรรับประทานอะโวคาโด (Avocado)เป็นประจำ เพื่อบำรุงให้ลูกน้อยมีสุขภาพดี แข็งแรง และมีพัฒนาการทางสมองที่ดีเยี่ยม นอกจากนี้หลังคลอดทารกแล้ว คุณแม่ก็ยังคงต้องทานอะโวคาโด(Avocado) ต่อ เพื่อมอบสารอาหารที่ดีให้กับลูกผ่านทางน้ำนมด้วย
3. อะโวคาโด (Avocado) ช่วยป้องกันและบรรเทาอาการเหน็บชา
สำหรับผู้ที่มีปัญหาปลายเส้นประสาท หรือ มีอาการเหน็บชาอยู่เป็นประจำ การทานอะโวคาโดจะส่งผลให้ความเจ็บปวดจากอาการเหน็บชาลดลงได้ เนื่องจากอะโวคาโดเป็นผลไม้ที่อุดมไปด้วยวิตามิน บี ที่มีส่วนช่วยบำรุงและลดอาการเหน็บชาได้เป็นอย่างดี นั่นหมายความว่า หากคุณทานอะโวคาโดเป็นประจำ อาการเหน็บชาที่เคยคุกคามคุณจะลดลงอย่างแน่นอน
4.อะโวคาโด (Avocado) ป้องกันและบรรเทาอาการหวัด
นอกจากอะโวคาโดจะมีไขมันที่ดีที่ช่วยในการคุมน้ำหนักแล้ว คุณรู้หรือไม่ว่า อะโวคาโดยังเป็นผลไม้ที่มีวิตามินซีสูงอีกด้วย ซึ่งเรารู้กันดีอยู่แล้วว่า วิตามินซีมีส่วนช่วยสร้างภูมิคุ้มกันให้ร่างกาย ซึ่งสามารถช่วยสร้างภูมิคุ้มกันและป้องกันไข้หวัดได้เป็นอย่างดี ว่าง่ายๆ คือ หากคุณทานอะโวคาโดเป็นประจำ ความเสี่ยงที่จะเจ็บป่วยจากอาการไข้หวัดตามฤดูกาลก็จะลดลงไปด้วยเช่นกัน
5. อะโวคาโด (Avocado) มีส่วนช่วยป้องกันเลือดออกตามไรฟัน
อย่างที่บอกไปข้างต้นว่า อะโวคาโดเป็นผลไม้ที่มีวิตามินซีสูง และวิตามินซีไม่ได้ช่วยป้องกันไข้หวัดได้เพียงอย่างเดียวเท่านั้น ยังสามารถช่วยป้องกันโรคเลือดออกตามไรฟันได้ด้วย และสำหรับใครที่กำลังประสบปัญหามีเลือดออกตามไรฟัน หรือ เจ็บปวดจากอาการเหงือกบวมแดง การรับประทานอะโวคาโดเป็นประจำจะช่วยบรรเทาให้อาการเหล่านี้ลดลงได้เป็นอย่างดี
6. อะโวคาโด (Avocado) ลดความเสี่ยงโรคมะเร็งได้
การรับประทานอะโวคาโดสุกเป็นประจำจะช่วยลดความเสี่ยงและป้องกันการเกิดโรคมะเร็งได้ เนื่องจากเนื้ออะโวคาโดสุกมีสารต้านอนุมูลอิสระต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น
- คลอโรฟิลล์ (Chlorophyll)
- แคโรทีนอยด์ (carotenoids)
- เบต้าแคโรทีน (beta carotene)
- ลูทีน (lutein) และ ซีแซนทีน (zeaxanthin)
นอกจากนี้ อะโวคาโดยังมีสารต้านอนุมูลอิสระ ที่นอกจากจะมีส่วนช่วยป้องกันและลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคมะเร็งแล้ว อะโวคาโดยังมีส่วนช่วยในการยับยั้งการเจริญเติบโตของเซลล์มะเร็ง รวมถึงมีส่วนป้องกันไม่ให้เซลล์ต่างๆ ถูกทำลายได้อีกด้วย
7.อะโวคาโด (Avocado) มีส่วนช่วยให้ระบบขับถ่ายดีขึ้น
หากคุณเป็นคนหนึ่งที่มีประสบปัญหาการขับถ่าย หรือต้องเผชิญกับอาการท้องผูกอยู่บ่อยๆ การทานยาระบายหรือยาถ่ายอาจจะส่งผลเสียต่อสุขภาพของคุณในอนาคตได้ การเลือกทานผักและผลไม้อาจจะส่งผลที่ดีต่อสุขภาพของคุณมากกว่า และแน่นอนว่า อะโวคาโดก็สามารถช่วยให้ระบบขับถ่ายของคุณดีขึ้นได้เหมือนกัน
นั่นก็เพราะว่า อโวคาโดเป็นผลไม้ที่นอกจากจะมีวิตามินซีสูงแล้ว ยังเป็นผลไม้ที่มีเส้นใยสูงไม่แพ้กัน ซึ่งเราทราบกันดีอยู่แล้วว่า การทานผักหรือผลไม้ที่มีกากใยสูงนั้นส่งผลดีต่อระบบขับถ่ายเป็นอย่างมาก ดังนั้น หากคุณเป็นหนึ่งคนที่ต้องเผชิญกับปัญหาท้องผูกอยู่บ่อยๆ การทานอะโวคาโดเป็นประจำจะสามารถช่วยแก้ปัญหาท้องผูก และลดความเสี่ยงในการเกิด มะเร็งลำไส้ ให้คุณได้อย่างแน่นอน
8. อะโวคาโด (Avocado) มีส่วนช่วยบำรุงสายตา
หากจะพูดถึงการกินผัก ผลไม้ที่อุดมไปด้วยวิตามินเอที่มีส่วนช่วย บำรุงสายตา หลายๆ คนอาจจะนึกถึงการกินผักบุ้ง แครอท หรือ มะละกอสุก เป็นหลัก แต่รู้หรือไม่ว่า การกินอะโวคาโดก็สามารถช่วยบำรุงสายตาได้ไม่แพ้กัน และหากคุณเป็นหนึ่งคนที่ต้องใช้สายตาไปกับการจ้องหน้าจอคอมหรือหน้าจอมือถือนานๆ รีบหาอะโวคาโดมาทานเพื่อบำรุงสายตาจะเป็นการดีที่สุด เพื่อให้ดวงตาคู่สวยมีสุขภาพดีไปนานๆ
แต่สำหรับใครที่ยังไม่เคยลองทานอะโวคาโด หรือมีความกังวลว่าอาจจะทานยาก หรือกังวลว่ารสชาติอาจจะไม่ถูกปาก ก็ไม่ต้องเป็นกังวล เพราะปัจจุบันคุณสามารถเลือกทาน อันนาโวคาโด (Annavocado) หรือ น้ำมันอะโวคาโดสกัดเย็น ชนิดแคปซูล จาก AVO Plus Vitamin B น้ำมันอะโวคาโดสกัดเย็นออการ์นิค 100% จากประเทศนิวซีแลนด์ ที่มีส่วนช่วยลดคอเรสเตอรอล ลดการอักเสบของข้อกระดูก ทดแทนการกินอะโวคาโดแบบผลได้ และถึงแม้ว่ารูปแบบการทานผลไม้จะเปลี่ยนไป แต่สารอาหารและวิตามินทุกอย่างยังอยู่ครบถ้วนอย่างแน่นอน