- บำรุงสุขภาพ
- บำรุงสายตา
- ดีทอกซ์
- บำรุงกระดูกและข้อ
- สุขภาพช่องปาก
- ของใช้สำหรับเด็ก
- กาแฟโสม
- เครื่องดื่มรังนก
- น้ำสมุนไพร
- เครื่องดื่มวิตามิน
- ซุปครีมกึ่งสำเร็จรูป
- เจลาตินสำเร็จรูป
- ปัญหาความดัน
- ปัญหาสุขภาพเข่า
- ปัญหาร่่างกายอ่อนล้า
- ดูแลสุขภาพการนอน
- Activis
- BONBACK
- Real Elixir
- S.O.M.
- ครีมบำรุงผิวหน้า
- เซรั่มบำรุงผิว
- เซรั่มบำรุงผม
- แชมพู
- MAGIQUE
- Revive
- Deraey
- BSC
- เสื้อ และกางเกง
- ชุดกระชับสัดส่วน
- ชุดชั้นใน และกางเกงชั้นใน
- ชุดกีฬา
- เสื้อ และกางเกง
- กระเป๋า
- ชุดชั้นใน และกางเกงชั้นในชาย
- นาฬิกา
- กล่องเก็บเครื่องประดับ
- แว่นกันแดด
- เครื่องฟอกอากาศ
- พัดลม
- เตารีด
- เครื่องซักผ้า
- กาต้มน้ำไฟฟ้า
- โคมไฟ และอุปกรณ์ให้แสงสว่าง
- โทรศัพท์มือถือ และแท็บเล็ต
- นาฬิกาสมาร์ทวอทช์
- อุปกรณ์เสริม
- ไดร์เป่าผม
- แปรงสีฟันไฟฟ้า
- เครื่องโกนหนวด
- Aston
- Philips
- WUW
- หม้อ
- หม้อทอดไร้น้ำมัน
- หม้อหุงข้าว
- กระทะ
- เตา
- เครื่องปั่น/เครื่องคั้นน้ำ
- ชุดจานชาม
- ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาด
- หุ่นยนต์ดูดฝุ่น
- เครื่องดูดฝุ่น
- ไม้ถูพื้น
- Dunlopillo
- BCC
- Serrano
- Smarthome

เช็กรายละเอียด “ช้อปดีมีคืน” ซื้ออะไร ใช้ลดหย่อนภาษีได้
อย่างที่หลายคนทราบกันดีอยู่แล้วว่า นโยบายช้อปดีมีคืน คือ นโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจภายในประเทศ โดยรัฐบาลกำหนดให้ผู้เสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา สามารถนำค่าใช้จ่ายจากการซื้อสินค้าและบริการภายในประเทศ ที่เกิดขึ้นระหว่างวันที่ 23 ตุลาคม - 31 ธันวาคม 2563 ไปใช้สิทธิ์ลดหย่อนภาษีในปีภาษี 2563 (ยื่นภาษีต้นปี 2564) ได้ แต่ไม่เกิน 30,000 บาท ภายในเงื่อนไขที่รัฐบาลกำหนดไว้ดังนี้
ช้อปดีมีคืน กับเรื่องต้องรู้ก่อนตั้งใจช้อป
สำหรับผู้เสียภาษีที่ตั้งใจจะใช้สิทธิ์ลดหย่อนภาษี จากนโยบาย ช้อปดีมีคืน คุณสามารถเลือกซื้อสินค้าและบริการจากร้านค้าภายในประเทศได้ ที่จดทะเบียน ภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) โดยต้องอยู่ภายใต้เงื่อนไขต่อไปนี้
- ต้องซื้อสินค้าหรือบริการ ภายในวันที่ 23 ตุลาคม – 31 ธันวาคม 2563
- ใช้ ใบกำกับภาษีเต็มรูปแบบ เป็นหลักฐานในการรับสิทธิ์ลดหย่อนภาษี
- ในกรณีที่ซื้อหนังสือหรือ E-book สามารถใช้ใบเสร็จรับเงิน หรือหลักฐานอื่นๆ แทนได้
- สามารถรวมบิลได้ แต่จะต้องไม่เกิน 30,000 บาทต่อคน
- ในกรณีที่ผ่อนสินค้าและบริการตามเงื่อนไขที่กำหนด สามารถใช้สิทธิลดหย่อนภาษีได้เต็มยอด แต่ไม่เกิน 30,000 บาท
โดยสินค้าที่เข้าร่วมโครงการ ช้อปดีมีคืน จะต้องอยู่ภายในเงื่อนไข ต่อไปนี้
- สินค้าและบริการจากผู้ประกอบการหรือร้านค้าภายในประเทศ ที่ลงทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT)
- สินค้าจากโครงการหนึ่งตำบลหนึ่งผลิตภัณฑ์ (OTOP) ที่ลงทะเบียน
- หนังสือ หรือ E-book (สามารถใช้ใบเสร็จเพื่อรับสิทธิ์ลดหย่อนภาษีได้)
- อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ มือถือ Tablet
- อาหารและเครื่องดื่มในร้านอาหาร และโรงแรม ไม่รวม ค่าสุรา เบียร์ ไวน์ บุหรี่ และยาสูบ
- ยางรถยนต์ อุปกรณ์ตกแต่งรถยนต์
- ค่าซ่อมรถ ค่าบริการซ่อมแซมต่างๆ
- ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าโทรศัพท์
สินค้าที่ไม่เข้าร่วมโครงการ ช้อปดีมีคืน ได้แก่
- เครื่องดื่มแอลกอฮอลล์ (สุรา, ไวน์, เบียร์ ฯลฯ)
- บุหรี่ หรือ ยาสูบ
- หนังสือพิมพ์ หรือ นิตยสาร ทั้งแบบรูปเล่มและ E-book
- ค่าบริการทัวร์เพื่อการท่องเที่ยว
- ค่าที่พักและโรงแรม
- ค่าซื้อยานพาหนะ อาทิ รถยนต์ รถมอเตอร์ไซค์ เรือ ฯลฯ
- ค่าน้ำมันและค่าก๊าซสำหรับเติมยานพาหนะ
(ข้อมูลจาก TaxBugnoms)
ใครสามารถใช้สิทธิ์ช้อปดีมีคืน ได้บ้าง?
- ผู้เสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาประจำปี 2563 (ที่ต้องยื่นแบบภาษีเงินได้ ต้นปี 2564)
หมายเหตุ
- ผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ (บัตรคนจน) ไม่สามารถใช้สิทธิ์ลดหย่อนภาษี ช้อปดีมีคืนได้
- ผู้ที่ลงทะเบียนโครงการ คนละครึ่ง ไม่สามารถใช้สิทธิ์ลดหย่อนภาษี ช้อปดีมีคืนได้
รู้ได้อย่างไรว่า เราใช้สิทธิ์ลดหย่อนภาษีได้เท่าไหร่?
หลายคนมักเข้าใจว่า นโยบายช้อปดีมีคืน จะช่วยให้คุณมีค่าลดหย่อนเพิ่มขึ้นถึง 30,000 บาท แต่ในความเป็นจริงแล้ว อัตราการใช้สิทธิลดหย่อนภาษีจะเป็นไปตามอัตราเงินได้สุทธิต่อปีของแต่ละบุคคล ซึ่งมีเพดานลดหย่อนภาษีสูงสุดอยู่ที่ 10,500 ไม่ใช่สามารถลดหย่อนภาษี 30,000 บาทอย่างที่หลายคนเข้าใจ
อัตราการใช้สิทธิ์ลดหย่อนภาษี จากนโยบายช้อปดีมีคืน
นั่นหมายความว่า การซื้อของจากนโยบายช้อปดีมีคืน จะช่วยให้คุณสามารถใช้สิทธิ์ลดหย่อนภาษี ได้เท่าไหร่ ก็ขึ้นอยู่กับ รายได้สุทธิต่อปีของคุณ ดังนั้น หากคุณอยากรู้ว่าตัวเองสามารถใช้สิทธิลดหย่อนได้เท่าไหร่ คุณอาจจะต้องเริ่มคำนวณภาษีเพื่อหารายได้สุทธิ เพื่อให้การใช้จ่ายของคุณได้สิทธิ์ลดหย่อนภาษีที่คุ้มค่าที่สุด
โดยคุณสามารถคำนวณหา รายได้สุทธิ ประจำปีได้จาก
- เงินได้ – ค่าใช้จ่ายส่วนตัว (100,000 บาท) – ค่าลดหย่อนส่วนตัว (60,000) = เงินได้สุทธิ
ซื้อสินค้าที่ RS Mall ก็ใช้ลดหย่อนภาษี จากนโยบาย ช้อปดีมีคืนได้
ในกรณีที่คุณซื้อสินค้าที่อยู่ภายใต้เงื่อนไขที่รัฐบาลกำหนดไว้ จาก RS Mall ทุกช่องทาง คุณสามารถใช้สิทธิ์ลดหย่อนภาษี จากนโยบายช้อปดีมีคืนได้ตามที่จ่ายจริง แต่ไม่เกิน30,000 บาท โดยคุณสามารถขอใบกำกับภาษีเต็มรูปแบบเมื่อทำรายการสั่งซื้อสินค้าจาก RS Mall เพื่อใช้เป็นหลักฐานสำหรับการใช้สิทธิ์ลดหย่อนภาษีได้
ย้ำอีกครั้งว่า
- คุณจะต้องใช้ใบกำกับภาษีเต็มรูปแบบเพื่อเป็นหลักฐานในการใช้สิทธิ์ลดหย่อนภาษีด้วย ดังนั้นก่อนซื้อสินค้าหรือบริการ อย่าลืมสอบถามร้านค้าในแน่ใจว่า "สามารถออกใบกำกับภาษีเต็มรูปแบบได้หรือไม่" เพื่อที่คุณจะสามารถใช้สิทธิ์ลดหย่อนภาษีได้อย่างเต็มที่
- สิทธิ์ลดหย่อนภาษีจากมาตรการช้อปดีมีคืน สามารถใช้กับการซื้อสินค้าและบริการ ภายในวันที่ 23 ตุลาคม – 31 ธันวาคม 2563 เท่านั้น