อาหารเสริม ไวตาเนเจอร์พลัส สารสกัดกระชายขาว ผสมสารสกัดพลูคาว (Finger Root Extract with PluKaow) เสริมภูมิคุ้มกันให้ร่างกาย ป้องกันหวัด ต้านการอักเสบ

ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร ไวตาเนเจอร์พลัส สารสกัดกระชายขาว ผสมสารสกัดพลูคาว (Vitanature+ Finger root extract with Plu kaow) อาหารเสริม สำหรับบำรุงร่างกาย ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน และดูแลสุขภาพองค์รวมให้กับร่างกาย ด้วยส่วนผสมที่ลงตัวของสารสกัดธรรมชาติ อาทิ สารสกัดกระชายขาว พลูคาว ยีสต์ เบต้า-กลูแคน วิตามินซี และซิงก์อมิโนแอซิดคีเลต วิตามิน และเกลือแร่ ที่สำคัญต่อร่างกาย

คุณสมบัติสารสกัด

1. สารสกัดกระชายขาว (Finger Root Extract)

สารสกัดกระชายขาว มีสารสำคัญที่มีฤทธิ์ช่วยเสริมระบบภูมิคุ้มกันให้แข็งแรง คือ สารแพนดูราทินเอ (Panduratin A) และสารพิโนสโตบิน (Pinostrobin) และจากงานวิจัยในหลอดทดลองพบว่า สารแพนดูราทินเอ (Panduratin A) ในกระชายขาว มีฤทธิ์ในการยับยั้ง SARS-CoV-2(COVID-19) โดยออกฤทธิ์ทั้งป้องกันการติดเชื้อ และยับยั้งเชื้อไวรัส นอกจากนี้ กระชายขาวยังมีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระและต้านการอักเสบระดับเซลล์ได้ดี

อาหารเสริมไวตาเนเจอร์พลัส สารสกัดกระชายขาว ผสมสารสกัดพลูคาว 1 แคปซูล มีส่วนผสมของ สารสกัดกระชายขาว 200 มิลลิกรัม จะมีสารออกฤทธิ์สำคัญ ทั้ง 2 ชนิด ดังนี้

• สารแพนดูราทิน เอ (Panduratin A) 2.10 มิลลิกรัม
• สารพิโนสโตบิน (Pinostrobin) 2.52 มิลลิกรัม

2. สารสกัดพลูคาว (Plukow Extract)

พลูคาว เป็นพืชสมุนไพรที่อุดมไปด้วยสารประกอบฟีนอลที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกายมากมาย เช่น สารฟลาโวนอยด์ (Flavonoid) อัลคาลอยด์ (Alkaloid) และสารเควอซิทิน (Quercetin) มีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระที่มีประสิทธิภาพในการป้องกันการทำลายเซลล์ในร่างกาย ช่วยยับยั้งการอักเสบ

นอกจากนี้ น้ำมันหอมระเหย จากพลูคาว ยังมีกลไกการออกฤทธิ์คล้ายกับยาต้านอักเสบกลุ่ม NSAIDs ซึ่งจากงานวิจัยนี้ทำให้พบว่าสารสกัดจากพลูคาวเป็นพืชสมุนไพรที่มีศักยภาพในการรักษาอาการที่เกิดจากการเชื้อไวรัส มากไปกว่านั้น พลูคาวเป็นผักที่ไม่มีน้ำตาล และมีสารอาหารที่เป็นประโยชน์ต่อสุขภาพหลายชนิด

อาหารเสริมไวตาเนเจอร์พลัส สารสกัดกระชายขาว ผสมสารสกัดพลูคาว 1 แคปซูล มีส่วนผสมของสารสกัดพลูคาว 50 มิลลิกรัม ซึ่งให้สารฟลาโวนอยด์ (Flavonoids) 0.6 มิลลิกรัม

3. ยีสต์เบต้า-กลูแคน (Yeast Beta Glucan)

คือสารกลุ่มโพลิแซ็กคาไรด์จากธรรมชาติ ที่ได้รับการยอมรับว่ามีศักยภาพในการเสริมสร้างภูมิคุ้มกันได้ดี อย่างไรก็ตามจากงานวิจัยพบว่าไม่ใช่ เบต้า-กลูแคน ทุกชนิดจะสามารถเสริมสร้างภูมิคุ้มกันได้ ซึ่งชนิดของ เบต้า-กลูแคน ที่สามารถส่งเสริมการทำงานของระบบภูมิคุ้มกันได้จะต้องเป็น เบต้า-กลูแคน ชนิดที่ไม่ได้ละลายน้ำ (Insoluble Beta-glucan) ซึ่งพบได้มากจากการหมักของยีสต์นั่นเอง

3. วิตามินซี (Vitamin C)

วิตามินซี เป็นวิตามินที่ร่างกายไม่สามารถสังเคราะห์ได้เอง แต่ที่มีความสำคัญอย่างมากกับร่างกาย เพราะมีส่วนช่วยในกระบวนการต่อต้านอนุมูลอิสระและปกป้องเซลล์จากอนุมูลอิสระ และ

• มีส่วนช่วยให้การทำงานของระบบประสาทและภูมิคุ้มกันให้เป็นปกติ
• มีส่วนช่วยในกระบวนการสร้างคอลลาเจนเพื่อการทำงานที่เป็นปกติของกระดูกอ่อน กระดูก เหงือก ผิวหนัง ฟัน
• ช่วยเพิ่มการดูดซึมเหล็ก

โดยปริมาณที่ร่างกายควรได้รับวิตามินซีต่อวัน คือ 60 มิลลกรัม และหากได้รับวิตามินซีไม่เพียงพออาจก่อให้เกิดโรคลักปิดลักเปิด เลือดออกตามไรฟัน บาดแผลหายช้า ปวดกระดูกและข้อ เส้นเลือดเปราะ รวมไปถึงอาการจากการดูดซึมเหล็กบกพร่อง เช่น ภาวะโลหิตจาง และอาจส่งผลให้ภูมิคุ้มกันอ่อนแอได้

4. ซิงก์อมิโนแอซิดคีเลต หรือ สังกะสี (Zinc Amino Acid)

ซิงก์อมิโนแอซิดคีเลต เป็นสารอาหารที่มีบทบาทสำคัญในกระบวนการสร้างสังเคราะห์ดีเอ็นเอและโปรตีน ช่วยให้การทำงานของกระบวนการเผาผลาญสารอาหารและระบบภูมิคุ้มกันเป็นปกติ และมีส่วนช่วยคงสภาพเส้นผม เล็บ ผิวหนัง กระดูกและการมองเห็นให้เป็นปกติ

โดยปริมาณที่ร่างกายต้องการสังกะสีต่อวัน คือ 15 มิลลิกรัม และหากได้รับสังกะสีไม่เพียงพออาจก่อให้เกิดอาการเจริญเติบโตช้า ตาบอดสี ผมร่วง ระบบสืบพันธุ์มีปัญหา ผิวพรรณไม่สดใส ร่างกายอ่อนเพลีย แลละอาจส่งผลให้ภูมิคุ้มกันอ่อนแอได้