ทำความรู้จัก กาแฟเพื่อสุขภาพ

เมื่อพูดถึงการดื่มกาแฟ หลายๆ คนอาจจะคิดว่าการดื่มกาแฟคือการทำลายสุขภาพของตัวเอง เพราะเรามักจะเคยได้ยินใครต่อใครพูดมาตลอดว่า สารคาเฟอีนที่อยู่ในกาแฟนั้นส่งผลให้เกิดอาการนอนไม่หลับ อาหารไม่ย่อย คลื่นไส้ อาเจียน ฯลฯ แต่คุณรู้หรือไม่ว่า หากคุณเลือกดื่มกาแฟให้ถูกช่วงเวลา สุขภาพคุณอาจจะดีขึ้นได้แบบไม่รู้ตัว

รู้หรือไม่ว่า ช่วงเวลาที่เหมาะสมในการดื่มกาแฟ คือ 09.30 – 11.30 น.

เพราะเป็นช่วงเวลาที่คาเฟอีนสามารถออกฤทธิ์ได้อย่างเต็มที่และมีประสิทธิภาพมากที่สุด ซึ่งเป็นช่วงเวลาเดียวกันกับการทำงานของ ฮอร์โมนคอร์ติซอล (ฮอร์โมนแห่งความเครียด) ที่มีส่วนช่วยให้ร่างกายตื่นตัว

ในทางกลับกัน หากคุณดื่มกาแฟในช่วงเวลา 8.00 – 9.00 น., 12.00 – 13.00 น. และ 17.30 – 18.30 น.อาจจะส่งผลเสียต่อร่างกายของคุณได้ เนื่องจากช่วงเวลาดังกล่าว เป็นช่วงเวลาที่ร่างกายผลิตฮอร์โมนคอร์ติซอลมากที่สุด นั่นหมายความว่า หากคุณดื่มกาแฟในช่วงเวลาข้างต้น คาเฟอีนในกาแฟอาจจะไปทำงานซ้ำซ้อนกับฮอร์โมนคอร์ติซอล และส่งผลให้คุณมีอาการปวดหัว คลื่นไส้ อาเจียน หรือ หัวใจเต้นแรงมากกว่าที่จะรู้สึกกระปรี้กระเปร่าได้

ดื่มกาแฟยังไง ไม่ให้เสียสุขภาพ?

เราต้องเข้าใจให้ตรงกันก่อนว่า การดื่มกาแฟเป็นประจำทุกวันไม่ได้ส่งผลให้สุขภาพของคุณเสีย แต่สิ่งที่ส่งผลต่อสุขภาพของคุณโดยตรงคือ “ปริมาณของกาแฟ” ที่คุณดื่มในแต่ละวันมากกว่า นั่นหมายความว่า หากคุณรักสุขภาพมากพอก็ ไม่ควรดื่มกาแฟเกิน 300 มิลลิกรัมต่อวัน (ถ้าเป็นกาแฟสำเร็จรูป ไม่ควรดื่มเกิน 3 แก้วต่อวัน) เป็นดีที่สุด และควรที่จะ

1. เลือกดื่มกาแฟดำ

อย่างที่เรารู้กันดีว่า กาแฟดำเป็นกาแฟที่มีประโยชน์ต่อร่างกายมากที่สุด ไม่ว่าจะเป็น ตัวช่วยในการลดและควบคุมน้ำหนัก ช่วยระบบไหลเวียนเลือดแล้วนั้น งานวิจัยยังบอกอีกว่า หากคุณเลือกดื่มกาแฟดำก่อนออกกำลังกายครึ่งชั่วโมง กาแฟดำจะช่วยให้เพิ่มอัตราเผาผลาญไขมัน และช่วยให้ประสิทธิภาพในการออกกำลังกายเพิ่มขึ้น 12% อีกด้วย

2. เลือกดื่มกาแฟร้อน ดีกว่ากาแฟเย็น

การดื่มกาแฟร้อนจะช่วยลดปริมาณน้ำตาล และไขมันที่สะสมในร่างกายได้ดีกว่ากาแฟเย็น เพราะโดยทั่วไปแล้ว กาแฟเย็นมักจะประกอบไปด้วยนมข้นหวาน น้ำตาล ครีมเทียม และวิปครีม เพื่อให้มีรสชาติถูกปากคนทั่วไปมากขึ้น แต่คุณรู้หรือไม่ว่า ส่วนผสมเหล่านั้นล้วนก่อให้เกิดโรคร้ายแรงได้ เช่น โรคเบาหวาน, โรคหัวใจ, โรคอ้วน, โรคความดันโลหิตสูง เป็นต้น ดังนั้น หากคุณอยากให้สุขภาพแข็งแรงอยู่กับคุณไปนานๆ การเลือกดื่มกาแฟร้อนอาจจะเป็นทางออกที่ดีที่สุด

3. ไม่ดื่มกาแฟตอนท้องว่าง

การดื่มกาแฟตอนท้องว่างอาจจะทำให้คุณเสี่ยงที่จะเป็นโรคกระเพาะได้ เนื่องจากคาเฟอีนในกาแฟอาจจะสร้างกรดออกมามากจนเกินไป ดังนั้น คุณจึงควรเลือกดื่มกาแฟควบคู่ไปกับอาหารเช้า, ขนมปัง หรือ เค้กจะเป็นการดีที่สุด

4. ดื่มกาแฟแล้วต้องทานอาหารเสริมด้วย

การดื่มกาแฟเป็นประจำอาจจะทำให้คุณเสี่ยงต่อภาวะกระดูกพรุนได้ เพราะคาเฟอีนจะดึงแคลเซียมออกจากร่างกายทางปัสสาวะ ดังนั้น คุณจึงควรเลือกทานอาหารที่มีแคลเซียมอย่าง นม, ปลาเล็กปลาน้อย หรือ อาหารเสริมเพื่อเติมแคลเซียมให้ร่างกายด้วย

กาแฟเพื่อสุขภาพ ดีกว่ากาแฟทั่วไปอย่างไร?

การเลือกดื่มกาแฟที่มีส่วนผสมจากสมุนไพร จะทำให้คุณสามารถดื่มกาแฟได้อย่างสบายใจมากขึ้น เพราะนอกจากจะมีทำให้ร่างกายกระปรี้กระเปร่าแล้ว คุณยังได้บำรุงสุขภาพไปในตัวด้วย เพราะกาแฟ S.O.M CMAX Black Rich Aroma ประกอบไปด้วย

• สารสกัดจากถั่งเช่า 600 มิลลิกรัม มีส่วนช่วยเสริมภูมิต้านทานให้แข็งแรง บำรุงตับ ไต ปอด
• สารสกัดจากโสมเกาหลี ที่มีส่วนช่วยบำรุงหัวใจ อาการวัยทอง ดื่มแล้วรู้สึกกระปรี้กระเปร่า

ยิ่งไปกว่านั้น การดื่มกาแฟ S.O.M CMAX Black Rich Aroma 1 แก้ว มีปริมาณแคลอรี่เพียง 45 กิโลแคลอรี่เท่านั้น มั่นใจได้ว่าไม่อ้วน แถมยังช่วยเพิ่มภูมิคุ้มกันให้ร่างกาย ต้านอนุมูลอิสระ บำรุงร่างกายและซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอได้อีกด้วย