

5 วิธีแก้ "ปวดหลัง" แบบง่ายๆ ที่ใครก็ทำได้ ไม่ยาก
เพราะอาการปวดหลังไม่ได้เป็นเพราะอายุเสมอไป ในบางครั้งอาการปวดหลังเป็นหนึ่งในสาเหตุการเกิดปัญหาสุขภาพระยะยาวได้อย่างที่คุณไม่คาดคิด และหากคุณเป็นหนึ่งคนที่มีอาการปวดเมื่อยหลัง และอยากหาวิธีลดอาการปวดหลังแบบเร็วๆ ที่ทำได้เองที่บ้าน ทีมงาน RS Mall รวบรวมมาให้แล้วในบทความนี้
1. ประคบลดปวดหลัง
คุณสามารถบรรเทาอาการปวดหลังได้ด้วยการประคบร้อน หรือ เย็นก็ได้ตามสะดวก ซึ่งการประคบเพื่อลดอาการปวดหลัง ทั้ง 2 แบบมีข้อดีแตกต่างกันออกไป ดังนี้
1.1. ประคบเย็น ให้คุณใช้ถุงน้ำแข็ง หรือแผ่นเจลเย็นสำเร็จรูปที่แช่ในตู้เย็น วางประคบลงในบริเวณที่ปวด โดยให้วางไว้ 20 นาที ทุกๆ 2 ชั่วโมง ความเย็นจะทำให้หลอดเลือดหดตัว เป็นผลให้อาการปวดลดน้อยลง แต่บอกก่อนว่า การลดปวดหลังด้วยน้ำแข็งประคบเย็น เหมาะสำหรับอาการปวดในระยะเริ่มต้น ที่ผ่านมาไม่เกิน 48 ชั่วโมงเท่านั้น
1.2. ประคบร้อน คุณสามารถประคบร้อนในบริเวณจุดที่มีอาการปวดหลัง หรือแช่น้ำร้อนก็ได้ โดยความร้อนจะช่วยให้หลอดเลือดขยาย ทำให้อาการปวดหลังลดลง ทั้งนี้ การประคบร้อนเหมาะสำหรับ ผู้ที่มีอาการปวดกล้ามเนื้อ ผู้ที่มีอาการปวดเรื้อรัง หรือ รู้สึกปวดหลังเกิน 48 ชั่วโมงแล้วเท่านั้น
(ข้อมูลจาก www.sarirarak.com)
2. นอนเหยียดกล้ามเนื้อหลัง
การนอนเพื่อเหยียดกล้ามเนื้อลดอาการปวดหลัง สามารถทำได้ 2 วิธี คือ
2.1. นอนราบ การนอนราบไปกับพื้นจะช่วยให้อาการปวดเมื่อยหลังดีขึ้น มีส่วนช่วยในการจัดเรียงกระดูก และกล้ามเนื้อให้เข้าที่ วิธีทำก็ง่าย เพียงนอนลงบนที่นอน, เบาะรองนอน ( ต้องใช้ที่นอนหรือเบาะรองที่นอนไม่นุ่มและไม่แข็งจนเกินไป) หรือ เสื่อโยคะ ดันแผ่นหลังให้ติดพื้น แขนสองข้างแนบข้างลำตัว เกร็งหน้าท้องค้างไว้ 10 วินาที (ทำซ้ำๆ ประมาณ 2-3 ครั้ง) การนอนราบเพื่อเหยียดกล้ามเนื้อหลังจะช่วยลดความอ่อนล้า และอาการปวดหลังได้ดีอย่างที่คุณอาจจะคิดไม่ถึง
2.2. นอนงอเข่า นอนราบลงบนพื้น หรือ บนที่นอนที่ไม่นุ่มหรือแข็งจนเกินไป ยกเข่าขึ้นมาทีละข้าง จากนั้นใช้แขนดึงเข่าค้างไว้ 10 วินาที ทำสลับขายกค้างไว้ 10 วินาทีเช่นกัน ต้องบอกก่อนว่าการนอนงอเข่า เหมาะสำหรับ ผู้ที่มีอาการปวดหลังส่วนล่าง บริเวณใกล้สะโพก หรือ ผู้ที่มีอาการปวดหลังร้าวลงสะโพกและต้นขา เพราะจะช่วยบรรเทาอาการปวดหลังส่วนล่างได้ดี
3. ยืดกล้ามเนื้อ แก้ปวดหลัง
3.1. โยคะ แก้ปวดหลัง การเล่นโยคะไม่เพียงช่วยให้ร่างกายของเราแข็งแรง ฝึกสมาธิหรือคลายเครียดเท่านั้น แต่โยคะบางท่ายังมีส่วนช่วยลดอาการปวดหลังส่วนล่างได้อย่างดีอีกด้วย และ ศูนย์กระดูกสันหลัง โรงพยาบาลนครธน ได้ให้คำแนะนำเกี่ยวกับวิธีทำท่าโยคะ แก้ปวดหลังไว้ดังนี้
- นั่งขัดสมาธิบนพื้น
- ยกขาขวาวางพาดทับขาซ้าย ให้ขาข้างซ้ายยังงอเข่านอนลงชิดพื้น และตั้งเข่าขวาขึ้น
- เอามือขวาแตะพื้นฝั่งขวา และใช้มือซ้ายแตะท้ายทอย
- เอี้ยวตัวไปทางขวา และค้างท่านี้ไว้ประมาณ 3 – 5 วินาที
- กลับมาหน้าตรง และสลับขา สลับมือ ทำแบบเดิมอีกครั้ง
การนั่งไขว้ขา บิดเอว จะช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นกล้ามเนื้อบริเวณสะโพก กล้ามเนื้อส่วนหลัง กระดูกสันหลังได้ และนอกจากจะช่วยคลายความเมื่อยล้าหรือปวดหลังแล้ว ยังมีส่วนช่วยให้เลือดบริเวณหลังและเอว สามารถไหลเวียนได้ดียิ่งขึ้นอีกด้วย
3.2. ดึงแขนข้ามไหล่
ท่านี้เหมาะสำหรับคนที่มีอาการปวดหลัง หรือรู้สึกเมื่อยหลังส่วนบนใกล้ต้นแขน หรือ ไหล่ โดยคุณสามารถเริ่มต้นท่านี้ได้ง่ายๆ ตามขั้นตอนต่อไปนี้
- นั่งตัวตรง และยกแขนขวาขึ้น
- บิดแขนซ้ายไปด้านหลัง โดยให้ปลายนิ้วอยู่บริเวณกลางหลัง
- งอข้อศอกขวา เอานิ้วมือขวาแตะนิ้วมือซ้าย และค้างไว้ประมาณ 10 วินาที
- ทำสลับข้าง ค้างไว้ 10 วินาทีเท่ากัน
4. นวดแก้ปวดหลัง
หลายคนน่าจะคุ้นชินกับการนวดแก้ปวดกันอยู่แล้ว เพราะการนวดเป็นสิ่งที่ช่วยคลายความปวดเมื่อยได้อย่างเห็นผลชัดที่สุด และเป็นสิ่งที่คุณสามารถทำได้ง่ายๆ ด้วยตัวเองที่บ้าน โดยการนวดแก้ปวดหลังสามารถทำได้ 2 ท่า คือ
4.1. นั่งขัดสมาธิ และกำหมัดสองข้างวางที่บั้นเอว จากนั้นหายใจเข้า กดมือ แอ่นหน้าอก กลั้นหายใจ 5 วินาที และหายใจออก พร้อมคลายแรงกด
4.2 นั่งขัดสมาธิ และวางกำปั้นไว้กลางบั้นเอว หายใจเข้าพร้อมกดมือ จากนั้นหายใจเข้า กดมือ แอ่นหน้าอก กลั้นหายใจ 5 วินาที และหายใจออก พร้อมคลายแรงกด และใช้กำปั้นทุบหรือคลึงเบาๆ บริเวณที่มีอาการปวด และทำซ้ำประมาณ 2-3 ครั้ง
การทำแบบนี้จะช่วยคลายความปวดบริเวณหลัง เอว และขาได้ดี และยังมีส่วนช่วยเพิ่มการไหลเวียนของเลือดในบริเวณหลังและเอวได้ดีอีกด้วย
5. เครื่องนวดไฟฟ้า แก้ปวดหลัง
การใช้เครื่องนวดไฟฟ้าก็เป็นอีกหนึ่งวิธีที่จะทำให้คุณหายปวดหลังได้รวดเร็วมากขึ้น และนอกจากเครื่องนวดไฟฟ้าจะช่วยบรรเทาอาการปวดเมื่อยร่างกาย เครื่องนวดยังมีส่วนช่วยทำให้กล้ามเนื้อคลายตัว หลอดเลือดขยายตัว และทำให้ระบบหมุนเวียนเลือดในร่างกายดีขึ้น และหากใช้เครื่องนวดไฟฟ้าเป็นประจำ อาการปวดหลัง ปวดเอวเรื้อรังก็ดีขึ้นอีกด้วย
เลือกเครื่องนวดไฟฟ้า แบบไหนดี?
หากคุณต้องการลองใช้เครื่องนวดไฟฟ้า แต่ยังไม่มั่นใจว่า จะต้องเริ่มต้นเลือกเครื่องนวดไฟฟ้าอย่างไร เรามีเทคนิคการซื้อเครื่องนวดไฟฟ้าดังนี้
- เครื่องนวดไฟฟ้าต้องผลิตจากวัสดุอย่างดี มีความแข็งแรง เพื่อการใช้งานที่ยาวนาน
- เครื่องนวดไฟฟ้าต้องมีความอ่อนโยนต่อผิว เพื่อลดโอกาสการเกิดการระคายเคืองผิวขณะใช้งาน
- เครื่องนวดไฟฟ้าที่มีขนาดเล็กกะทัดรัด พกพา หรือ เคลื่อนย้ายสะดวก เหมาะสำหรับการใช้งานในทุกๆ ที่
- เครื่องนวดไฟฟ้าที่มีใบรับประกัน หรือ ได้มาตรฐาน โดยสามารถสังเกตได้จาก เลขที่ใบอนุญาต ฆพ. หรือ เลขที่นำเข้าเครื่องมือแพทย์
ทั้งหมดนี้คือวิธีแก้อาการปวดหลังแบบง่ายๆ ที่คุณสามารถทำได้ด้วยตัวเองที่บ้าน แต่ทั้งนี้ คุณจะต้องไม่ต้องลืมว่า อาการปวดหลังส่งผลต่อสุขภาพของคุณในระยะยาวด้วย ดังนั้น เราอยากจะให้คุณลองสังเกตตัวเองด้วยว่า อาการปวดหลังของคุณนั้นอยู่ในระดับใด เป็นแค่อาการปวดเมื่อยจากการนั่งนานๆ เป็นอาการปวดที่สามารถระบุบริเวณได้ หรือ เป็นการปวดหลังที่มีอาการอื่นๆ ร่วมด้วย เพื่อที่คุณจะได้รู้ทันร่างกายตัวเอง และพบหมอได้อย่างทันท่วงที
และหากคุณกำลังมองหาไอเท็มช่วยลดปวดหลัง ไม่ว่าจะเป็น เครื่องนวดไฟฟ้า เบาะรองนั่ง เบาะรองที่นอน (ท็อปเปอร์แก้ปวดหลัง) เก้าอี้สำนักงาน เก้าอี้เกมมิ่ง โซฟาเบด รวมถึง อาหารเสริมบำรุงร่างกาย คุณสามารถเลือกซื้อสินค้าเหล่านี้ได้ที่ www.rsmall.com เรากล้ารับประกันว่า เราคัดแต่ของดี มีคุณภาพ ให้คุณได้เลือกซื้ออย่างสบายใจ หายปวดหลังแน่นอน!